แอสตันเผยว่า เขาได้ไอเดียการทำใบแดง-ใบเหลือง มาจากสัญญาณไฟจราจร ขณะที่นั่งอยู่ในรถซึ่งติดอยู่บริเวณสี่แยกในวันหนึ่ง โดยเขาคิดว่า น่าจะมีการนำสัญลักษณ์สีแดงและสีเหลืองของไฟสัญญาณจราจรมาปรับใช้กับการแข่ง ขันฟุตบอล โดยให้สีเหลืองแทนการเตือนนักเตะที่มีการประพฤติผิดในระหว่างเกมการแข่งขัน และสีแดงเป็นการไล่ออกในกรณีที่เป็นการกระทำผิดขั้นรุนแรง
ทั้งนี้ การใช้ใบแดง-ใบเหลือง เป็นสัญลักษณ์แทนคำพูดจากปากของกรรมการยังสามารถช่วยลดโอกาสในการประทะคารม ระหว่างนักเตะที่โดนใบแดง-ใบเหลือง กับกรรมการ ซึ่งบางครั้งอาจจะถูกมองว่าพูดจายั่วยุนักเตะ และยังช่วยตัดปัญหาเรื่องการใช้ภาษาในการสื่อสารในกรณีที่นักเตะ และกรรมการพูดกันคนละภาษาได้อีกด้วย เนื่องจากใบแดง-ใบเหลือง ถือเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นสากล
แอสตันและเพื่อนผู้ตัดสินในฟีฟ่าเริ่มนำใบแดง-ใบเหลืองมาใช้เป็นครั้งแรกใน การแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1970 ซึ่งเม็กซิโกเป็นเจ้าภาพ ทว่า กฎเกณฑ์ดังกล่าวยังมิได้ถูกบรรจุไว้ในกฎกติกาสากลของการแข่งขันฟุตบอลจวบจน กระทั่งปี 1992 จึงเริ่มมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ
สถิติการแจกใบแดง-ใบเหลืองมากที่สุดเป็นประวัติการในการแข่งขันฟุตบอล โลกเกิดขึ้นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2006 ระหว่างทีมชาติฮอลแลนด์กับทีมชาติโปรตุเกส มีใบเหลืองรวม 16 ใบ และใบแดงอีก 4 ใบ โดยกรรมการผู้ซึ่งกระหน่ำควักกระเป๋าตลอดทั้งแมตช์ ก็คือ วาเลนติน อิวานอฟ สิงห์เชิ้ตดำจากแดนหมีขาว นั่นเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : 108ซองคำถาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น