ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

รักอย่างไรไม่น่าเบื่อ

       
        ผู้หญิงทุกคนอาจตั้งหน้าตั้งตารักใครสักคนใจจดใจจ่อ แต่การทุ่มเทความรักที่ไร้ความยั้งคิดอาจทำคุณเจ็บปวดได้เหมือนกัน


        ข้อแรก:เป็นผู้หญิงงี่เง้าเอาแต่ใจ ใครๆก็ยี้ทั้งนั้นแหละ น่าเบื่อจนไม่อยากคุยด้วยเพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง ถ้าเขาเจอคนที่ดีกว่าคุณรับรองเขาใส่ตีนแมวย่องไปไม่กลับเลยล่ะ เอาเป็นว่าถ้าคิดจะงอนหรือเอาแต่ใจแบบไม่มีเหตุผลก็คิดแป็บนึง........แล้วหันมาคุยแบบตรงๆดีกว่าแฟร์กว่าเยอะ

        ข้อสอง:มีเหตุผลมากกว่าเอาอารมณ์ตัดสิน ทั้งนั้นทั้งนี้มาจากเธอที่อารมณ์แปรปวนซึ่งบางอย่างก็ไม่เป็นตามที่เราคิด ใช้เหตุผลเข้ามาช่วยอย่าให้อาการที่แสดงออกมารุนแรง ควรพูดเสียงเรียบเมื่อคุณมีปัญหาต่อกัน

        ข้อสาม:ให้เกรียติเขา ไปทำอะไรไม่รู้แหล่ะต่อหน้าคนอื่นให้ยิ้มระรื่นไว้ หากอยู่2ต่อ2เมื่อไร่ค่อยคุยกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆก็ตามอย่าให้เขาเสียหน้าเก็บเอาไว้คุยกัน2คนดีกว่านะเรื่องจะได้ไม่บานปลาย


        ข้อสี่:ให้ความสำคัญคือว่าเขาอาจจะมีสิ่งที่ไม่สบายใจอย่างน้อยก็อยู่เป็นเพื่อนเขาให้กำลังใจหรือทำให้เขาสบายใจขึ้น ดูแลเขาในยามที่เขาหมดกำลังใจหรือท้อแท้ มันก็ต้องมีบ้างที่คนเราคิดไม่ตกแต่หากมีใครสักคนมานั่งข้างๆเราในตอนน้นคงจะดี

        ข้อห้า:ป่อยให้เขาอยู่คนเดียวบ้าง เขาจะไปไหนทำอะไรเราไม่ต้องตามติดแจก็ได้ การที่ได้อยู่คนเดียวบ้างเขาจะได้ผ่อนคลายแบบสุดๆ หมดแม็กเมื่อไรเดียวก็กลับมาเอง

        ข้อหก:เอาใจใส่เขาเสมอ เมื่อคุณอยู่กับเขาอย่าเฉยเมยนะ ถามนิดๆหน่อยๆสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเขาบางทีอาจไม่สบายก็ได้ ก็ดูแลเขาไปเลยหายาให้ทานแล้วให้เขาหลับสักงีบนึง

       ข้อเจ็ด:รอยยิ้มสดใสเมื่ออยู่ด้วยกัน คุณจะมีความสุขมากถ้าคุณหัดยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอบวกกับคำพูดเพราะติดหู ใครๆก็รักคุณถ้าคุณทำตัวน่ารักสดใส ดีกว่าคุณทำหน้าบูดตลอดเวลาคอยจับผิดทุกฝีเก้า ท่องเข้าไว้ว่ารอยยิ้มเท่านั้นที่คลองใจ

        การที่เรารักใครสักคนนั้ไม่ต้องเริดหรู แต่ขอแค่คนๆนั้นรักเราไปนานๆดีกว่าไม่ต้องรักมากแต่ค่อยๆรัก รักไปเรื่อยๆจนกว่าจะเต็มหัวใจ ความรักไม่ใช่ของเล่นที่จะท้งจะขว้างแต่มันมาจากหัวใจของคน2คน ถึงแม้ว่าจะไปได้ไม่ไกลก็ตามอย่างน้อยก็เป็นความรู้สึกดีๆที่มีให้กันก็พอ

ขอบพระคุณข้อมูลจาก http://www.arip.co.th/blog.php?blogger=aroru&id=623&keyword=

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น